เด็กฝึกงาน.com

หลักง่ายๆ หาเด็กฝึกงาน ให้ได้ตรงใจ

  • บทความ HR
  • 25/5/18
  • 3,208
หลักง่ายๆ หาเด็กฝึกงาน ให้ได้ตรงใจ

การหาเด็กฝึกงาน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ องค์กรต้องการ เพราะถือเป็นการเปิดโอกาสให้เหล่า นักศึกษาฝึกงาน ได้มาเรียนรู้งานต่างๆ รวมถึงได้รับคำแนะนำ และวัฒนธรรมขององค์กรที่แตกต่างกันไป ส่วนฝั่งขององค์กรการหาเด็กฝึกงาน ช่วยให้เหล่าคนทำงาน ได้ถ่ายทอดความรู้ งานที่ทำอยู่ ให้กับเหล่าเด็กฝึกงาน ซึ่งการหาเด็กฝึกงาน สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย เพราะเด็กๆ มักจะมีไอเดียสดใหม่ และมุมมองของช่วงวัย ที่สารถแลกเปลี่ยนกับเหล่าคนวัยทำงานได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้การหาเด็กฝึกงานควรมีหลักการอย่างไร รวมถึงข้อดี ข้อเสีย ที่เกิดขึ้นจากการร่วมงานกับเด็กฝึกงานมาติดตามกัน

 ขั้นตอนการหาเด็กฝึกงาน 


ขั้นแรก อาจเริ่มจากการเปิดหาเด็กฝึกงาน บนเว็บไซต์และแฟนเพจ หรือ ทำการลงประกาศหาเด็กฝึกงาน โดยระบุตำแหน่งที่เปิดรับ รวมถึงจำนวนที่ต้องการ เมื่อเด็กฝึกงานเห็นก็จะเข้ามาสอบถามรายละเอียดผ่านทางประกาศที่ได้ลงเอาไว้

จากนั้นเมื่อมีเด็กเข้ามาสมัครฝึกงาน ทางองค์กรจะติดต่อให้เด็กฝึกงานส่ง แฟ้มรวมผลงาน (Portfolio) ให้กับองค์กรผ่านทางอีเมล ซึ่งการหาเด็กฝึกงานให้ได้ตรงตามงานส่วนใหญ่ มักจะต้องดูที่ Portfolio ว่ามีความสามารถหรือผลงาตรงกับรายละเอียดของงาน ที่องค์กรอยากให้เข้ามาฝึกงานหรือไม่ ซึ่งสำหรับเด็กฝึกงาน การจัดทำพอร์ตผลงาน จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ขั้นตอนถัดมา เมื่อองค์กรได้รับไฟล์ Portfolio คนที่ดูแลเรื่องนักศึกษาฝึกงาน ก็จะดูรายละเอียด ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชื่อ-นามสกุล สถาบันที่ศึกษาอยู่ รวมถึงผลงานต่างๆ ที่เคยทำมา และระยะเวลาที่จะเข้ามาฝึก เมื่อเกณฑ์เหล่านี้ได้รับการพิจารณา องค์กรก็จะทำการติดต่อกลับไปหานักศึกษา เพื่อรอฟังผลการรับเข้าฝึกงาน

 การเฟ้นหาและทำงานร่วมกับเด็กฝึกงาน 


เมื่อเด็กฝึกงานลงสนามเข้าสู่องค์กร การพบกันครั้งแรกระหว่างเด็กฝึกงาน และพี่เลี้ยงฝึกงาน อาจเริ่มจากการแนะนำตัว บอกเล่าวัฒนธรรมองค์กร รวมถึงหน้าที่และห้องต่างๆ ตามแผนก ซึ่งวันแรกเด็กฝึกงาน อาจจะยังเกร็งๆ เพราะยังไม่คุ้นชินกับสถานที่ แต่ก็จะสามารถปรับตัวได้ในเวลาต่อมา

ในส่วนของงาน การทำงานร่วมกับเด็กฝึกงาน อาจจะต้องพิจารณาตั้งแต่การรับเด็กเข้ามาฝึกงาน รวมถึงการพูดคุยกันในเบื้องต้น เพื่อดูว่าเด็กที่จะเข้ามาฝึกงานกับองค์กรนั้น เป็นเด็กแบบไหน อาทิ หากต้องการคนที่มีน้ำใจ ช่วยงานได้อย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่อาจจะต้องหาเด็กฝึกงานที่เคยเข้าค่ายจิตอาสา เข้ากิจกรรมบ่อยๆ แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป

หรืออยากได้เด็กที่พูดเก่ง กล้าแสดงออก ก็อาจจะหาเด็กฝึกงานจากประสบการณ์การที่เกี่ยวกับการพูด เช่น MC พิธีกร หรือเคยผ่านงานประกวดมา เด็กพวกนี้จะค่อนข้างกล้าพูด กล้าแสดงออกกว่าเด็กทั่วๆ ไป

อยากได้เด็กที่เงียบๆ แต่ทำงานได้ดี อาจจะต้องหาเด็กฝึกงานจากการดูที่เกรดเฉลี่ย ถ้าเด็กที่มีเกรดดีมากๆ แน่นอนต้องเป็นคนที่ตั้งใจเรียน และเรียนเก่งมากๆ เราจะได้เด็กเก่งๆมาทำงานด้วยแน่นอน

หากต้องการด็กฝึกงานที่ถนัดวาดรูป ก็หาเด็กฝึกงานที่ชอบวาดรูป ก็อาจจะดูผลงาน และทักษะด้านอื่นๆ ที่เขามี เพื่อที่จะได้นำมาเป็นแนวทางการอยู่ร่วมกันได้

ถ้าเกิดว่าอยากได้เด็กฝึกงานที่ถ่ายรูปเก่ง ตัดต่อเก่ง ก็หาเด็กฝึกงานที่มีผลงานการถ่ายรูปเป็นเลิศ หรือหาเด็กฝึกงานที่ตัดต่ออย่างเท่ ดูวีดีโอที่ตัดได้นานๆ ไม่มีเบื่อ แน่นอนการหาเด็กฝึกงานประเภทนี้ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ เลือก แล้วเราอาจจะได้เด็กที่เก่งทั้งสองอย่างมาอยู่ในออฟฟิศก็เป็นได้

 หากเด็กฝึกงานไม่ตอบโจทย์ขององค์กร 


ประเด็นที่ว่าหากหาเด็กฝึกงานมาแล้ว ไม่ตอบโจทย์ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุ ตัวเด็กอาจจะคิดว่ามาฝึกงานแล้ว ไม่ได้ทำงานอย่างคาดหวัง หรือ ทัศนคติของเด็กฝึกงาน ที่ไม่สอดคล้องกับองค์กร ควรเริ่มจากการพูดคุยกับเด็กฝึกงาน ให้คำปรึกษา มองหาส่วนงานที่เด็กฝึกงานอยากจะเรียนรู้จริงๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการหาทางออก เพื่อเด็กฝึกงานสามารถปรับตัวเข้ากับหน่วยงานหรือองค์กรได้มากที่สุด

ฉะนั้นการหาเด็กฝึกงาน มาทำงานร่วมกัน จึงถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะหากหาเด็กฝึกงานที่ไม่ค่อยโอเคกับงาน ชีวิตออฟฟิศเปลี่ยนไปเลย ข้อแนะนำคือควรเฟ้นหาหาเด็กฝึกงานอย่างตั้งใจ ใส่ใจ เพราะยิ่งถ้าใส่ใจในการหาเด็กฝึกงานมากแค่ไหน ก็จะยิ่งเจอเด็กฝึกงานที่ดีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นอย่ารีบหาเด็กฝึกงานจนเกินไป ค่อยๆ หาเด็กฝึกงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่พร้อม และตั้งใจจะมาฝึกกับอย่างจริงจัง การหาเด็กฝึกงานเป็นเรื่องที่สนุก เพราะนอกจากจะได้เห็นข้อมูลที่หลากหลาย ยังได้เห็นหน้าตา ได้เห็นผลงาน ได้เห็นถึงความตั้งใจของน้องๆ ที่จะมาฝึกงาน ถือซะว่าเป็นการทำความรู้จักเด็กๆ หลากหลายแบบ

บางครั้งเมื่อรับเด็กฝึกงานมาแล้ว แต่เกิดปัญหาอย่างพี่เลี้ยงที่ฝึกงานกับน้องฝึกงานไม่ถูกกัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ก็ตาม ไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน หรือตัดโอกาสด้วยการหาเด็กฝึกงานคนใหม่ ทั้งนี้ควรให้โอกาสและสนับสนุนเด็ก เพื่อให้นักศึกษาฝึกงานได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่

 

ปัจจัยเหล่านี้เป็นหลักการหาเด็กฝึกงาน เพื่อให้ได้เด็กที่ถูกใจตรงตามงานมากที่สุด ถึงอย่างไร สิ่งที่เด็กทุกคนต้องการเมื่อเข้ามาฝึกงานยังองค์กร คือ ความรู้และประสบการณ์ที่พี่เลี้ยงจะสามารถถ่ายทอดให้ได้

 

เขียนเรซูเม่ เรซูเม่ ฝึกงาน การฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน เด็กฝึกงาน ที่ฝึกงาน เด็กฝึกงานดอทคอม ประกาศฝึกงาน ตำแหน่งฝึกงาน หาเด็กฝึกงาน สมัครฝึกงาน หาที่ฝึกงาน หางานฝึกงาน สถานที่ฝึกงาน แหล่งฝึกงาน รวบรวมที่ฝึกงาน ประกาศหาเด็กฝึกงาน ลงประกาศหาเด็กฝึกงาน ลงประกาศหานักศึกษาฝึกงาน หานักศึกษาฝึกงาน ค้นหาเรซูเม่